มือใหม่ควรรู้! ชวนไขความลับการสกรีนเสื้อแต่ละแบบ พร้อมข้อดี ข้อเสีย

[Naprapats]

เสื้อลายพิมพ์เท่ ๆ ที่เราใส่กันอยู่ทุกวันนี้ มีเบื้องหลังที่คุณอาจไม่เคยรู้
เพราะเบื้องหลังลายที่โดดเด่นแต่ละตัว เกิดจาก "เทคนิคการสกรีน" ที่แตกต่างกัน
ซึ่งแต่ละวิธีมีทั้ง ข้อดี, ข้อเสีย, และ ลักษณะการใช้งานเฉพาะตัว
หากคุณเป็นสายแฟหรือกำลังจะเริ่มธุรกิจเสื้อยืด การเข้าใจเรื่องนี้คือก้าวแรกที่สำคัญมาก ๆ
วันนี้เรารวมทุกเทคนิคการสกรีนเสื้อ พร้อมไขความลับแบบเข้าใจง่ายในโพสต์เดียว!

ประเภทของการสกรีนลายเสื้อที่คุณควรรู้ พร้อมข้อดี ข้อเสีย

1. Traditional Screen Printing (การสกรีนด้วยบล็อกแบบดั้งเดิม)

จุดเด่น
เทคนิคคลาสสิกที่ใช้ "บล็อก" สำหรับแต่ละสี แล้วค่อย ๆ พิมพ์สีลงบนผ้า
เหมาะกับลายเรียบง่าย สีไม่ซับซ้อน หรือสั่งผลิตจำนวนมาก

ข้อดี

สีสด ติดทน ทนการซัก

คุ้มค่ามากเมื่อต้องผลิตจำนวนเยอะ

พิมพ์ได้บนเสื้อผ้าหลายประเภท

ข้อเสีย

ไม่เหมาะกับลายละเอียดมาก

ต้นทุนต่อแบบสูงหากพิมพ์จำนวนน้อย

ใช้เวลาเตรียมบล็อกพอสมควร

เหมาะกับ

เสื้อทีม, เสื้ออีเวนต์, เสื้อบริษัทจำนวนมาก

2. Heat Transfer Printing (การพิมพ์แบบใช้ความร้อน)

จุดเด่น

พิมพ์ลายลงบนกระดาษพิเศษ แล้วรีดติดลงบนเสื้อด้วยความร้อน

ข้อดี

พิมพ์ลายภาพถ่ายหรืองานกราฟิกได้ละเอียด

สีคมชัด

สั่งทำน้อยชิ้นก็ได้

ข้อเสีย

ลายอาจหลุดหรือแตกเมื่อซักหลายครั้ง

ไม่เหมาะกับเนื้อผ้าบางชนิด เช่น ผ้ายืดมาก ๆ

ไม่ทนเท่าการสกรีนแบบดั้งเดิม

เหมาะกับ

เสื้อของขวัญ, เสื้อกลุ่มเพื่อน, ลายตามเทรนด์เร็ว ๆ

3. DTG (Direct-to-Garment) – พิมพ์ตรงลงผ้า

จุดเด่น

เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เครื่องพิมพ์พ่นหมึกลงบนเสื้อโดยตรง เหมือนเครื่องพิมพ์กระดาษ!

ข้อดี

ลายละเอียดสูง พิมพ์ได้ทุกเฉดสี

ทำได้แม้สั่งเพียง 1 ตัว

ไม่ต้องทำบล็อก ประหยัดเวลา

ข้อเสีย

หมึกติดไม่ทนเท่าสกรีนแบบดั้งเดิม

ไม่เหมาะกับเนื้อผ้าบางแบบ เช่น โพลีเอสเตอร์

ราคาสูงกว่าวิธีทั่วไป

เหมาะกับ

เสื้อแฟชั่นยูนีค, แบรนด์เล็ก ๆ, เสื้อของขวัญเฉพาะบุคคล

4. Sublimation Printing – การพิมพ์แบบระเหิด

จุดเด่น

ใช้ความร้อนทำให้หมึกกลายเป็นไอ แล้วซึมลงบนผ้า เป็นเนื้อเดียวกับผ้าเลย

ข้อดี

สีสด ไม่ลอก ไม่หลุด

เบาสบาย ไม่รู้สึกถึงลายพิมพ์

เหมาะกับงานลายใหญ่ ๆ

ข้อเสีย

ใช้ได้เฉพาะผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าใยสังเคราะห์

ไม่สามารถใช้กับผ้าฝ้ายหรือสีเข้มได้ดี

เหมาะกับ
เสื้อกีฬา, เสื้อทีมงาน, เสื้อออกกำลังกาย

5. Vinyl Printing (งานพิมพ์ไวนิล)

จุดเด่น

ตัดแผ่นฟิล์มไวนิลตามลวดลาย แล้วรีดลงบนเสื้อด้วยความร้อน

ข้อดี

คมชัด มีเท็กซ์เจอร์นูน

เหมาะกับลายเรียบง่าย ข้อความ โลโก้

สีทน ไม่ซีดง่าย

ข้อเสีย

ไม่เหมาะกับลายซับซ้อนหรือภาพถ่าย

รู้สึกหนาเมื่อใส่

พิมพ์ทีละชั้น จึงใช้เวลามาก

เหมาะกับ

เสื้อแบรนด์, เสื้อแฟนคลับ, เสื้อบริษัท

แล้วจะเลือกเทคนิคไหนดี?
ถ้าคุณเป็นคนชอบตาม T-Shirt Print Trend หรือมองหา ไอเดียเสื้อแฟชั่น แบบยูนีค
ลองพิจารณาตามลักษณะการใช้งาน เช่น

ถ้าชอบแนววินเทจคลาสสิก = Traditional Screen

ถ้าอยากพิมพ์ภาพถ่ายเหมือนจริง = DTG หรือ Heat Transfer

ถ้าชอบเสื้อออกกำลังกาย = Sublimation

ถ้าอยากได้เสื้อทีมดูเท่ ๆ = Vinyl

รู้ไว้ก่อนเลือก ช่วยประหยัดทั้งงบและเวลา และยังได้ ลายสกรีนเสื้อ ที่ตรงใจที่สุด